วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ไพบูลย์ เห็นพ้อง วิษณุ ให้ มส. จัดการปมศาสนจักร

"ไพบูลย์" เห็นพ้อง "วิษณุ" เรื่องศาสนจักรให้ มส.จัดการ ยันเจตนาเพื่อปกป้องศาสนา แนะโฆษก พศ.อย่าตีความพระลิขิตบิดเบือน เดินหน้าต่อกรณีโกงเงินชาวบ้านมาบริจาค

วันที่ 25 ก.พ. นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์ กิจการพระพุทธศาสนา สปช. กล่าวถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า ปัญหาศาสนจักรและพระธัมมชโย เป็นปัญหาที่คณะสงฆ์จะไปตัดสินกันเอง ว่า ตนเห็นด้วยว่า เป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม (มส.) ที่ตนออกมากล่าวถึง ก็เพราะมีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ และมติของ มส. เมื่อปี 2542 ที่รับรองพระลิขิตทั้งหมดว่า เป็นของจริง ขณะนี้จึงยังต้องฟังดูว่า มติของ มส. ในปี 2558 ที่ออกมาและที่ประชุม มส.ชุดปัจจุบัน จะดำเนินการอย่างไรต่อมติของ มส. เมื่อปี 2542 และพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชฯ

"พระลิขิตทั้งหมดมี 5 ฉบับ แบ่งเป็นฉบับ 1-2 ที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่มีตราพระนามย่อของพระองค์ท่าน ถือได้ว่าเป็นเอกสารส่วนพระองค์ แต่ฉบับที่ 3-5 เป็นพระลิขิตที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการที่ทรงระบุชัดเจนต่อกรณีปัญหานี้ และผมยืนยันว่า การทำงานของกรรมการที่ผมเป็นประธานฯ เป็นการศึกษาวิเคราะห์ เพื่อปฏิรูปและปกป้องพระศาสนา ไม่มีเจตนาอื่นใด" นายไพบูลย์ กล่าว

เมื่อถามว่า นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) ออกมาระบุว่า พระธัมมชโยคืนทรัพย์ให้วัดแล้ว ไม่มีความผิด เพราะทรัพย์นั้นเป็นชื่อของ พระธัมมชโย ไม่ใช่ชื่อวัด แต่พระลิขิตระบุชัดว่า การได้ทรัพย์ ขณะที่เป็นพระก็ต้องคืนให้วัด

นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้คงเป็นหน้าที่ของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย และนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักฯ ที่ดูแลสำนักพระพุทธศาสนา จะเป็นผู้ดำเนินการเอง เพราะพฤติกรรมที่นายสมชายกำลังทำอยู่เหมือนทำตัวเป็นสงฆ์เสียเอง

ทั้งที่ควรจะเงียบเสียที และตอบให้ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อมติ มส.ปี 2542 ที่ยังงไม่ได้ดำเนินการ หากจะออกมาก็ควรจะมีหลักฐานอ้างอิงไม่ใช่ใช้ดุลพินิจตัวเองตีความพระลิขิต หรือชี้แจงแทนคณะสงฆ์ โดยการแทรกแซงให้ความเห็นที่บิดเบือน และขัดต่อนโยบายของนายวิษณุ

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า กรรมการฯ ชุดตน จะเดินหน้าศึกษาวิเคราะห์กรณีบริจาคเงินทุจริตของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ที่ฉ้อโกงเงินประชาชน และนำไปบริจาคให้วัดและพระสงฆ์ ทั้งนี้ ยังคาดหวังว่า กรรมการใน มส. จะใช้โอกาสนี้เพื่อวางมาตรการปกป้องพระพุทธศาสนา เพราะเห็นช่องโหว่แล้ว อยากเห็นพระผู้ใหญ่ใน มส. จะเป็นผู้นำที่กล้าหาญในการทำบัญชีทรัพย์สินของวัดและของพระเถระประกาศให้สังคมให้รับทราบ เพื่อเป็นตัวอย่างกับพระที่อยู่ในปกครอง เพื่อความโปร่งใส และเรียกคืนความเชื่อมั่นศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา ว่า พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบได้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า คือ ผู้เป็นพระไม่สะสมทรัพย์สมบัติใดๆ ก็จะเป็นเรื่องดี.



ที่มา:  http://www.thairath.co.th/content/483466

หลี่ สุวัณณา

About หลี่ สุวัณณา

Author Description here.. Nulla sagittis convallis. Curabitur consequat. Quisque metus enim, venenatis fermentum, mollis in, porta et, nibh. Duis vulputate elit in elit. Mauris dictum libero id justo. Mauris dictum libero id justo.

Test

© 2013 THAINEWSDO. WP Converted by .
Proudly Powered by Blogger.