รมว.คลัง ลงนามพิธีสาร 7 อำนวยความสะดวกขนส่งสินค้าผ่านแดนให้ผู้ประกอบการ ลดต้นทุนและเคลื่อนย้ายสินค้าเร็วขึ้น หนุนเศรษฐกิจระหว่างประเทศโต

นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ลงนาม พิธีสาร 7 เรื่องระบบศุลกากรผ่านแดน และภาคผนวกทางเทคนิค : กฎเกณฑ์และพิธีการว่าด้วยศุลกากรผ่านแดนอาเซียน ภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนนั้น จะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการไทย ทั้งนำเข้าและส่งออก โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายสินค้าผ่านแดนอาเซียนสะดวกรวดเร็วขึ้น ส่งผลให้การค้าผ่านชายแดนเกิดความคล่องตัว และเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศในอาเซียนขยายตัวเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้พิธีสาร 7 เป็นพิธีสารหนึ่งของกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ด้วยการจัดทำกฎระเบียบเกี่ยวกับการขนส่ง การค้า และศุลกากรให้ง่ายและมีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อจัดตั้งระบบการขนส่งผ่านแดนให้มีความเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งที่ผ่านมากรมศุลกากรได้แก้ไขกฎหมาย เพื่อให้มีความสอดรับกับพิธีดังกล่าวแล้ว

“เมื่อพิธีสารดังกล่าวผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายแล้ว จะมีประโยชน์กับผู้ประกอบการไทยอย่างมาก ทั้งการกระตุ้นและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนและสินค้าข้ามแดนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ทำให้ระบบการขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน และการเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

นอกจากนี้ พิธีสาร 7 จะช่วยให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีระเบียบกฎเกณฑ์และมาตรการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าผ่านแดนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีระเบียบพิธีการและขั้นตอนในการขนส่งสินค้าผ่านแดนที่เป็นระบบ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์อย่างเต็มรูปแบบ โดยส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในระบบการขนส่งสินค้าผ่านแดน และใช้หลักประกัน ฉบับเดียว โดยให้มีผลบังคับในทุกประเทศและครอบคลุมถึงสินค้าตลอดเส้นทางการขนส่ง รวมทั้งใช้แบบสำแดงหรือเอกสารการสำแดงทางศุลกากรที่เหมือนกันทั่วทั้งภูมิภาคในการขนส่งผ่านแดน ส่งผลให้ประเทศสมาชิกอาเซียนก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ครม.) หลังจากการลงนามในพิธีสาร 7 ระบบศุลกากรผ่านแดน และภาคผนวกทางเทคนิคดังกล่าวแล้ว จะเสนอให้ สนช. พิจารณาให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 23 วรรค 2 ก่อนให้สัตยาบันต่อไป




ที่มา:  http://www.dailynews.co.th/